แบบฝึกซ่อมเสริมทักษะ
การอ่านและเขียนภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๓
ผู้เขียนได้จัดทำขึ้นเพื่อให้ครูผู้สอนใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการสอนซ่อมและเสริมเสริมนักเรียนที่มีปัญหาในการเรียนภาษาไทยด้านการอ่านและเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๓ โดยได้ทำตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ เป็นต้นมา ขณะนี้ได้พัฒนาขึ้นและเผยแพร่บนเว็บไซต์ของสพท.เชียงใหม่ เขต ๑ และเว็บไซต์ของผู้เขียนเอง ที่นำมาบอกกล่าวแก่คุณครูในบันทึกนี้ เนื่องจากมีคุณครูหลายๆท่านทั่วไทยโทรศัพท์มาสอบถามและอยากเห็นตัวอย่าง/แนวทางในการนำไปใช้ จึงขออนุญาตนำมาฝากค่ะ..
เนื้อหาที่ใช้ในการสร้างกิจกรรมในแบบฝึกได้นำเนื้อหาสาระต่างๆในบทเรียนในเรื่องความรู้หลักเกณฑ์ทางภาษาที่เกี่ยวกับรูปและเสียงพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ การแจกลูกสะกดคำ การผันอักษร และ คำควบกล้ำ ซึ่งนักเรียนมักจะประสบปัญหาในการอ่านและเขียน เนื่องจากทั้งการอ่านและการเขียนเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากซับซ้อนสำหรับเด็กที่หัดอ่านใหม่ๆ ถ้าเด็กยังไม่มีความพร้อม ครูจะสอนอย่างไรนักเรียนก็อ่านเขียนไม่ได้ เด็กที่มีความเจริญเติบโตด้านร่างกาย ได้แก่ ประสาทหู ประสาทตา มีความเจริญถึงขั้นที่จะฟังหรือเห็นความแตกต่างระหว่างรูปและเสียงพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ในด้านสมองมีความเข้าใจพอที่จะทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ เข้าใจเรื่องที่ครูเล่าหรืออ่านให้ฟัง มีความคิดรวบยอดกับสิ่งต่าง ๆ โดยการที่จะมีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ได้นั้นก็ต้องอาศัยประสบการณ์ที่กว้างขวางทางสังคมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเด็กเองจะส่งผลให้เด็กมีความพร้อมที่จะอ่านและเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากความพร้อมทางด้านต่าง ๆ แล้ว การเรียนรู้ภาษาไทยให้ได้ผลยังจะต้องได้รับการฝึกฝนให้คล่องแคล่ว แม่นยำ จึงจะนำไปใช้ได้ เช่น การฝึก การอ่านคำให้จำรูปคำได้แล้วฝึกแจกลูกสะกดคำ ให้นักเรียนนำหลักเกณฑ์ไปอ่านและเขียนคำอื่น ๆ เป็นต้น ดังนั้นพัฒนาการทางภาษาของเด็กจึงต้องคำนึงถึงความพร้อมและการฝึกฝนเป็นสำคัญ
วัตถุประสงค์ของแบบฝึกฯ
(๑)ให้ครูผู้สอนใช้เป็นสื่อหรือเครื่องมือในการช่วยเหลือนักเรียนที่มีข้อบกพร่อง ด้านการอ่านและเขียนที่สืบเนื่องมาจากขาดความพร้อมและทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเรียนรู้แต่ละหน่วยการเรียนรู้/บทเรียน
(๒)ให้นักเรียนได้รับการฝึกฝนที่ถูกวิธีตามลำดับขั้นตอนของการฝึกทักษะ คือ ให้เห็นตัวอย่างแล้วทำตามอย่างได้ แล้วจึงฝึกให้ทำเองโดยไม่ต้องดูตัวอย่างและฝึกฝนบ่อยๆ จนคล่องแคล่ว สามารถนำไปใช้ได้
(๓)เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาการเรียนรู้เฉพาะเรื่อง เช่น การอ่านและเขียนคำตามมาตราตัวสะกดต่าง ๆ การผันตัวอักษร การแจกลูกสะกดคำ การออกเสียงคำควบกล้ำ เป็นต้น
(๑)ให้ครูผู้สอนใช้เป็นสื่อหรือเครื่องมือในการช่วยเหลือนักเรียนที่มีข้อบกพร่อง ด้านการอ่านและเขียนที่สืบเนื่องมาจากขาดความพร้อมและทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเรียนรู้แต่ละหน่วยการเรียนรู้/บทเรียน
(๒)ให้นักเรียนได้รับการฝึกฝนที่ถูกวิธีตามลำดับขั้นตอนของการฝึกทักษะ คือ ให้เห็นตัวอย่างแล้วทำตามอย่างได้ แล้วจึงฝึกให้ทำเองโดยไม่ต้องดูตัวอย่างและฝึกฝนบ่อยๆ จนคล่องแคล่ว สามารถนำไปใช้ได้
(๓)เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาการเรียนรู้เฉพาะเรื่อง เช่น การอ่านและเขียนคำตามมาตราตัวสะกดต่าง ๆ การผันตัวอักษร การแจกลูกสะกดคำ การออกเสียงคำควบกล้ำ เป็นต้น
ลักษณะกิจกรรมในแบบฝึก
๑.ได้จัดเป็นแบบฝึกหัดแต่ละเรื่องตามเนื้อหา โดยแต่ละแบบฝึกหัดจะมี กิจกรรมประมาณ ๔-๖ กิจกรรม ซึ่งเนื้อหาได้จัดเรียงลำดับตามสาระการเรียนรู้ที่นำเสนอในสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระภาษาไทย ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งสถานศึกษาแต่ละแห่งสามารถปรับใช้ได้ตามหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยที่สถานศึกษาจัดขึ้นตามความเหมาะสม
๒.ทุกแบบฝึกหัดได้จัดเรียงลำดับเนื้อหาจากง่ายไปหายาก การฝึกแต่ละ กิจกรรมมีรูปภาพและเพลงประกอบทุกกิจกรรม ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นและเร้าให้เด็กมีความสนใจที่จะทำแบบฝึกหัดและให้ได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน
๓.ทุกแบบฝึกหัดจะประกอบด้วยกิจกรรมหลัก ๆ ดังต่อไปนี้คือ
· การร้องเพลงเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนให้น่าสนใจและสนุกสนานโดยเป็นเพลงที่เกี่ยวกับความรู้หลักเกณฑ์ทางภาษาที่เป็นเนื้อหา / สาระของแต่ละเรื่อง
· การเขียนตามรอยและการขีดเส้นใต้คำ เพื่อให้จำรูปคำสระ และชื่อของพยัญชนะได้
· การทายพยัญชนะจากภาพ เพื่อให้จำรูปและชื่อพยัญชนะได้
· การโยงเส้นคำและข้อความกับรูปภาพ เพื่อให้รู้ความหมายของคำและข้อความ
· การประสมคำจากภาพ เพื่อให้จำรูปพยัญชนะได้
· การแยกส่วนประกอบของคำ เพื่อให้รู้จักหลักเกณฑ์ของการประสมคำ
· การเติมคำหรือข้อความในช่องว่าง เพื่อให้รู้จักรูปและความหมายของคำและข้อความ
· การจับคู่คำและความหมาย เพื่อให้รู้จักรูปคำและความหมาย
· การเขียนคำให้ตรงกับภาพ เพื่อให้จำรูปคำและรู้จักสะกดคำ
· การทายปริศนาคำทาย เพื่อให้รู้จักคิดด้วยความสนุกสนานเร้าใจ
· การเรียงคำเป็นประโยค เพื่อให้รู้จักใช้คำในประโยค
· การแต่งประโยคจากภาพ
วิธีใช้แบบฝึกในการสอนซ่อมเสริม
ทักษะการอ่านและเขียน ภาษาไทย
๑. ใช้สอนเป็นรายบุคคล
เป็นการสอนแบบตัวต่อตัว ตามข้อบกพร่องของแต่ละคน ควรใช้กับห้องเรียนที่มีจำนวนนักเรียนที่มี ข้อบกพร่องในการเรียนเรื่องนั้น ๆ น้อยคน แต่มีลักษณะของปัญหา ต่างกัน ความสำเร็จของการสอน/จัดกิจกรรมวิธีนี้ขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพ เทคนิคการถ่ายทอดความรู้ การสร้างแรงจูงใจและความเอาใจใส่ใกล้ชิดของครู
๒. ใช้สอนเป็นกลุ่มย่อย
ในบางเนื้อหานักเรียนจะมีปัญหาลักษณะเดียวกันหรือเรื่องเดียวกัน ควรให้เรียนรวมกันเป็นกลุ่มย่อยๆ ตามปัญหา ปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันบ้าง หรือแยกฝึกเป็นรายบุคคลบ้าง ครูผู้สอนสามารถสลับการจัดกิจกรรมของแต่ละกลุ่มได้ตามความเหมาะสม
๓. ให้นักเรียนสอนกันเอง
ครูผู้สอนสามารถใช้แบบฝึกนี้โดยให้นักเรียนเก่งสอนนักเรียนอ่อน ลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน โดยอาจสอนตัวต่อตัวหรือเป็นกลุ่มย่อย ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของครู ครูจะต้องทำความเข้าใจให้นักเรียนที่เป็นผู้สอนให้เข้าใจวัตถุประสงค์ของการสอน ขั้นตอนการสอน การใช้สื่อ และการจัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนสอนกันเอง นักเรียนจะสื่อความหมายเข้าใจกันได้ง่ายกว่าที่ครูสื่อกับนักเรียนเพราะเป็นเด็กด้วยกันนอกจากจะทำให้นักเรียนที่เรียนอ่อนเรียนดีขึ้นแล้ว นักเรียนที่เป็นผู้สอนยังได้ทบทวนความรู้และทักษะของตนเองให้ดีขึ้นไปด้วย ข้อควรระวังคือ พฤติกรรมการสอนของนักเรียนเก่งอาจสร้างปมด้อยให้นักเรียนอ่อน ครูจึงควรหาวิธีแนะนำให้เข้าใจ ใช้คำพูดไม่กระทบกระเทือนจิตใจ และให้กำลังใจเพื่อนผู้เรียนอ่อนอยู่เสมอ
รายละเอียดเนื้อหา เล่ม ๑
แบบฝึกหัดที่ ๑ คำที่ใช้สระอาและพยัญชนะ ต ถ ฟ ม ร
แบบฝึกหัดที่ ๒ คำที่ใช้สระอูและพยัญชนะ ก ด ข ห น ว ด
แบบฝึกหัดที่ ๓ คำที่ใช้สระอี สระใอ(ไม้ม้วน) และพยัญชนะ ช บ อ
แบบฝึกหัดที่ ๔ คำที่ใช้สระโอ สระไอ(ไม้มลาย)และพยัญชนะ จ ป พ
แบบฝึกหัดที่ ๕ คำที่ใช้สระอุ สระอำ
แบบฝึกหัดที่ ๖ คำที่ใช้สระอะ
แบบฝึกหัดที่ ๗ คำที่ใช้สระอิ สระเอ
แบบฝึกหัดที่ ๘ คำที่ใช้สระอัว สระออ
แบบฝึกหัดที่ ๙ คำที่ใช้สระเอา สระเออ
แบบฝึกหัดที่ ๑๐ คำที่ใช้สระอือ
แบบฝึกหัดที่ ๑๑ คำที่ใช้สระแอะ และผันวรรณยุกต์อักษรสูง
แบบฝึกหัดที่ ๑๒ คำที่ประสมด้วยสระเออะ
แบบฝึกหัดที่ ๑๓ คำที่ประสมด้วยสระเอือ สระเอะ
แบบฝึกหัดที่ ๑๔ คำที่ประสมด้วยสระเอีย สระโอะ
แบบฝึกหัดที่ ๑๕ คำที่ประสมด้วยสระเอาะ
รายละเอียดเนื้อหา เล่ม ๒
แบบฝึกหัดที่ ๑ อ่าน เขียนคำที่มี ง สะกด
แบบฝึกหัดที่ ๒ อ่าน เขียนคำที่มี ย สะกด
แบบฝึกหัดที่ ๓ อ่าน เขียนคำที่มี ว สะกด
แบบฝึกหัดที่ ๔ อ่าน เขียนคำที่มี ก สะกด
แบบฝึกหัดที่ ๕ อ่าน เขียนคำที่สะกดด้วยแม่กด
แบบฝึกหัดที่ ๖ อ่าน เขียนคำที่สะกดด้วยแม่กบ
แบบฝึกหัดที่ ๗ อ่าน เขียนคำที่สระเปลี่ยนรูปและลดรูป
แบบฝึกหัดที่ ๘ ทบทวนการใช้พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และตัวสะกด
คู่มือครูแนวการจัดกิจกรรมฝึกทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน
เครื่องมือตรวจสอบคุณภาพนักเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ดาวน์โหลดแบบฝึกได้...ที่นี่เจ้า