๑.ยิ้ม
“...ยิ้มรอยนี้ให้คุณ ยิ้มละมุนให้คุณคนมอง
ยิ้มรอยนี้ให้น้อง ยิ้มที่มองด้วยสายตายินดี..”
ยิ้ม...ด้วยเมตตา
ยิ้ม...มีค่าต่อผู้ใกล้ชิด
ยิ้ม...สร้างมิตร สร้างโลกให้แจ่มใส
ยิ้ม...เกื้อกูลความก้าวหน้าในกิจการงาน
ยิ้ม...เป็นสื่อ “ใจ” ส่งรอยยิ้มให้กำลังใจกัน
ยิ้ม...ให้ความชื่นบาน สมานไมตรีจิตมิตรภาพ
รอยยิ้ม...เป็นหน้าต่างของหัวใจ
ยิ้มจากใจจะสดใสมีเสน่ห์
ยิ้มละไม...ยิ้มแย้มแจ่มใส..
ยิ้มแต้..ยิ้มกริ่ม..
ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่..ยิ้มแป้น..
ยิ้มเผล่..ยิ้มย่องผ่องใส..และ ยิ้มสู้
“..โอ้ย ! ยิ้มทั้งนั้น..
วันนี้คุณยิ้มหรือยังคะ...ยิ้มหน่อยค่ะ..”
“เห็นหน้าศน.อ้วนก็เห็นฟัน” "รอยยิ้มของ ศน.อ้วนทำให้ครูขวัญอยากเข้าใกล้ค่ะ..” “รอยยิ้มของศน.อ้วนเป็นรอยยิ้มจริงใจครับ” “ศน.อ้วน..ทำไมยิ้มได้ทั้งวัน” “เสน่ห์ของ ศน.อ้วน..อยู่ที่รอยยิ้มจากใจจริงนี่เอง” “คนอะไร...ยิ้มที่ตาก็ได้ด้วย” สารพันคำที่ได้ยินได้ฟังจากคนรอบข้าง “ ก็ไม่ได้ลงทุนนี่คะ ไม่ได้จ่ายตังค์ซักบาทเดียวค่ะ จึงยิ้มได้ ยิ้มดี..ชีวีก็มีสุขเอง..ค่ะ”
“ยิ้มจนเป็นนิสัย เป็นชีวิตจิตใจ เป็นตัวตนของตัวเอง”
ยิ้มจริงใจ เป็นรอยยิ้มที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกที่ดีงาม ยิ้มจริงใจเป็นรอยยิ้มทางบวก รอยยิ้มอย่างจริงใจนี้สามารถเกิดขึ้นได้ นอกจากจะใช้กล้ามเนื้อยิ้มตามปกติ คือ กล้ามเนื้อขากรรไกรแล้ว ยังใช้กล้ามเนื้อรอบดวงตาอีกด้วย
ผลของการ “ยิ้มจริงใจ”ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความสุข(เอนเดอร์ฟิน) ออกมาซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปออกฤทธิ์ทำให้ม่านตาขยายตัว และตามีประกายของความสุขที่เราเรียกว่า "ตายิ้ม"ไงคะ..ซึ่งตายิ้ม นี้เองที่สื่อถึง..ความรัก.. ความเป็นมิตร.. และ ความอบอุ่น
..มายิ้มกันหนอเพื่อนเอย..
...ยิ้มทุกวันนะคะ..
ยิ้ม...
สร้างมิตร
สร้างโลกให้แจ่มใส
สร้างมิตร
สร้างโลกให้แจ่มใส
๒.ประนม
“...เราคนไทย ไปไหนต้องไหว้ ไว้ก่อน..”
“... เราคนไทย ไปไหนต้องมือไม้อ่อน..”
เสน่ห์ที่ชวนมอง ของคนไทย...ประเทศเดียวในโลก
ประนม(ก)อาการยกมือขึ้นกระพุ่ม..ยกกระพุ่มมือ..พนมมือก็ว่า.
ไหว้(ก) การทำความเคารพโดยยกมือขึ้นประนม.
Y ประนม....ไหว้
Y ไหว้....มารยาทไทยที่อ่อนช้อย งดงาม
Y ไหว้...แสดงความเคารพ
Y ไหว้....กิริยาที่งดงามของคนไทยทุกระดับที่ทุกชาติในโลกสัมผัสได้
"..เป็นผู้น้อยคอยก้มประนมกร....เป็นผู้ใหญ่ไหว้ก่อนยิ่งน่ารัก.."
“ ..ตั้งแต่ผมเป็นภารโรงมามีครูอ้วนนี่แหละครับที่ไหว้ผมก่อน..ผมภูมิใจมาก..”
“..ศน.อ้วนไม่ต้องไหว้ลุงหรอก..ลุงเป็นแค่คนขับรถ...”
“ไม่ต้องไหว้หรอกค่ะ..ไม่เป็นไรค่ะ..”
(ครูผู้หญิงค่อนข้างสูงวัยที่นำน้ำเย็นมาให้ดื่มพูด
เมื่อผู้เขียนยกมือไหว้ขอบคุณ.เมื่อคราไปเยี่ยมที่โรงเรียน
เธอรีบวางแก้วน้ำและรับไหว้ )
“ศน.อ้วนไม่ต้องไหว้ทุกวันก็ได้ค่ะ”
(แม่บ้านที่มีน้ำใจช่วยหิ้วถุงเอกสารขึ้นไปส่ง
ที่ห้องทำงาน บนชั้น ๔ พูดทุกครั้งเมื่อรับไหว้)
อีกเยอะแยะมากมายค่ะ..หากจาระไนก็คงไม่จบ
ในเรื่องความขยันยกมือไหว้ของผู้เขียน
๓.ก้ม
“เป็นผู้น้อยคอยก้มประนมกร....เป็นผู้ใหญ่ก้มก่อน..ก็น่ามอง น่ารัก”
ก้ม...ทำอาการให้ต่ำลงโดยการน้อม
Yอ่อนน้อมถ่อมตน..ทุกคนเป็นมิตร
Yอ่อนน้อมถ่อมตน..ทุกคนช่วยเหลือ
Yอ่อนน้อมถ่อมตน..ทุกคนอยากเข้าใกล้
Yอ่อนน้อมเป็นนิตย์...พิชิตคน พิชิตงาน..
สานสู่ความสำเร็จ (ยืนยันค่ะ)
กิริยาอาการ “ก้ม” “อ่อนน้อมถ่อมตน” เป็นกิริยาที่แสดงถึงหลักธรรมของความเป็นกัลยาณมิตร ประการหนึ่ง คือ “ปิโย” เป็นความน่ารักที่ทำให้ผู้อื่นปรารถนาอยากเข้าใกล้ สนทนาวิสาสะ ปรึกษาหาหรือด้วย
...อ่อนน้อมถ่อมตน...บนความจริงใจ
๔. ขาน
“..หวานคารมคมคำที่ฉ่ำจิต
หวานสนิทยิ่งล้ำน้ำคำหวาน
เหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจให้ชื่นบาน
หวานอ้อยตาลหรือจะเทียบเปรียบหวานคำ..”
“..อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก
แต่ลมปากหวานหูมิรู้หาย...”
“ ..ถึงบางพูด พูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรัก รสถ้อยอร่อยจิต..”
...สวัสดีเจ้า...ขอบคุณเจ้า...ขอสูมาเจ้า...
บ่เป๋นหยังเจ้า..บ่โขดเจ้า..
หื้ออภัยเจ้า..บ่ว่าเจ้า..
...สวัสดีค่ะ...ขอบคุณค่ะ..ขอโทษค่ะ...
ไม่เป็นไรค่ะ...ไม่โกรธค่ะ...
ให้อภัยค่ะ...ไม่ว่าให้ค่ะ.
J....มีอะหยังหื้อจ้วยก่อเจ้า...
....มีอะไรให้ช่วยไหมคะ….
J....อยากไค่ได้เอกสารอะหยังเจ้า...
....อยากได้เอกสารอะไรคะ....
J....มีอะหยังโทรมาได้นะเจ้า ยินดีจ้วยเจ้า..
.....มีอะไรโทรมาได้นะคะ ยินดีช่วยค่ะ….
J....อยากหื้อไปปะตี้โฮงเฮียนบอกได้นะเจ้า..
....อยากให้ไปพบที่โรงเรียนบอกได้นะคะ….
J พูดไพเราะ...เสน่ห์ที่สร้างได้ง่าย ๆ
J มธุรสวาจา...สร้างมิตร
J พูดไพเราะ...เชื่อมใจ เชื่อมสายใยรัก ความผูกพัน
J พูดดี...เกื้อกูลความก้าวหน้าในภารกิจ
J พูดดี วจีงาม...งานที่เริ่ม สำเร็จได้ค่อนเชียวค่ะ (ยืนยันอีกครั้ง)
๕. การให้
...การรู้จักให้...ผูกใจคนได้แน่นกว่าสิ่งใด...
ชีวิตหากคิดว่า “กำไร” อยู่ที่การเป็นผู้รู้จักให้ เมื่อนั้นชีวิตจะมีความสุข ความสุขจากการทำดี ความสุขจากการมีเพื่อนดี การจะได้เพื่อนดี เราต้องทำตัวให้เป็นเพื่อนที่ดีก่อน หากหวังจะได้เพื่อนที่ดี เราต้องทำสิ่งดี “ให้” สิ่งดีแก่เพื่อนก่อน เรียกว่า “ให้ เพื่อ ได้”
ครูสอนศิษย์ด้วยปัญญาและความเมตตา ความเป็นครูจึงสูงค่ายิ่ง
|
นายครองใจลูกน้อง..นายต้องใจดีไม่แล้งน้ำใจ
|
กวีและศิลปินสร้างศิลปะด้วยใจรัก...งานจึงออกมาด้วยความประณีต
|
คนชนะใจคนด้วยความดี...ผูกไมตรีด้วย “การให้ ”
|
· ให้ความรักค่ะ...ผ่านรอยยิ้มและการกระทำ...ทำให้ครูอยากเข้าใกล้ อยากคุย อยากปรึกษา
· ให้ความเป็นมิตร...สิ่งที่ได้คืนมาคือความเป็นมิตร เช่นกันค่ะ
· ให้ความเคารพ...ทุกคนค่ะ ..ไม่ว่าใคร..
· ให้เกียรติ...ทำให้งานราบรื่น ลุล่วงด้วยดี มีประสิทธิภาพ
· ให้การยกย่อง..แก่ผู้สมควรได้รับการยกย่อง ด้วยวิธีการต่าง ๆ ให้คำปรึกษา..แก่คุณครูที่ต้องการความช่วยเหลือ
· ให้การช่วยเหลือ..เมื่อคุณครู/ผู้บริหาร/สถานศึกษา/ฯลฯ...ต้องการให้สื่อเอกสาร..ทางวิชาการแก่คุณครู/ผู้บริหาร/สถานศึกษาที่ต้องการ
· ให้แนวคิด..ให้คำแนะนำ..ทั้งทางวิชาการและเรื่องส่วนตัวที่ส่งผลถึงงาน
· ให้การยอมรับ..งานพัฒนาคุณภาพการศึกษาเป็นงานสร้างคนการยอมรับความคิดริเริ่มในการสร้างสรรค์งาน...จึงเป็นคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของผู้ที่ได้รับการยอมรับ
· ให้การแบ่งปัน..ตามโอกาส ความเหมาะสม ความจำเป็น
· ให้เวลา..ทำให้ผู้ที่กำลังต้องการพบ..มีความอุ่นใจ คาดหวังว่าสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือจะประสบผลสำเร็จ
· ให้กำลังใจ..เมื่อคุณครู/ผู้บริหารพบความท้อแท้หรือกำลังประสบปัญหาในการทำงาน
· ให้คำชมเชย..เมื่อคุณครู/ผู้บริหาร/ผู้รับการนิเทศ คิดดี พูดดี ทำดี และประสบผลสำเร็จในการทำดี ฯลฯ
· ให้โอกาส..เป็นการให้ที่สุดยอดเชียวค่ะ..(คิดเอาเองจากประสบการณ์)
· ให้อภัยค่ะ..ยิ่งใหญ่ที่สุด
ผู้ให้...ย่อมเป็นที่รัก