วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

สูตรไม่ลับ รหัสรัก

สูตรไม่ลับ..รหัสรัก



๑.ยิ้ม

              “...ยิ้มรอยนี้ให้คุณ   ยิ้มละมุนให้คุณคนมอง    
        ยิ้มรอยนี้ให้น้อง  ยิ้มที่มองด้วยสายตายินดี..

                   ยิ้ม...ด้วยเมตตา 
                   ยิ้ม...มีค่าต่อผู้ใกล้ชิด
                   ยิ้ม...สร้างมิตร  สร้างโลกให้แจ่มใส
                   ยิ้ม...เกื้อกูลความก้าวหน้าในกิจการงาน
                   ยิ้ม...เป็นสื่อ ใจ  ส่งรอยยิ้มให้กำลังใจกัน
                   ยิ้ม...ให้ความชื่นบาน  สมานไมตรีจิตมิตรภาพ 
                   รอยยิ้ม...เป็นหน้าต่างของหัวใจ     
                   ยิ้มจากใจจะสดใสมีเสน่ห์

ยิ้มละไม...ยิ้มแย้มแจ่มใส..
ยิ้มแต้..ยิ้มกริ่ม..
ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่..ยิ้มแป้น..
ยิ้มเผล่..ยิ้มย่องผ่องใส..และ ยิ้มสู้
“..โอ้ย ! ยิ้มทั้งนั้น..
วันนี้คุณยิ้มหรือยังคะ...ยิ้มหน่อยค่ะ..


       เห็นหน้าศน.อ้วนก็เห็นฟัน  "รอยยิ้มของ ศน.อ้วนทำให้ครูขวัญอยากเข้าใกล้ค่ะ..  รอยยิ้มของศน.อ้วนเป็นรอยยิ้มจริงใจครับ  ศน.อ้วน..ทำไมยิ้มได้ทั้งวัน  เสน่ห์ของ ศน.อ้วน..อยู่ที่รอยยิ้มจากใจจริงนี่เอง  คนอะไร...ยิ้มที่ตาก็ได้ด้วย”  สารพันคำที่ได้ยินได้ฟังจากคนรอบข้าง ก็ไม่ได้ลงทุนนี่คะ ไม่ได้จ่ายตังค์ซักบาทเดียวค่ะ  จึงยิ้มได้ ยิ้มดี..ชีวีก็มีสุขเอง..ค่ะ  
 
ยิ้มจนเป็นนิสัย  เป็นชีวิตจิตใจ เป็นตัวตนของตัวเอง

         ยิ้มจริงใจ เป็นรอยยิ้มที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกที่ดีงาม ยิ้มจริงใจเป็นรอยยิ้มทางบวก รอยยิ้มอย่างจริงใจนี้สามารถเกิดขึ้นได้ นอกจากจะใช้กล้ามเนื้อยิ้มตามปกติ คือ กล้ามเนื้อขากรรไกรแล้ว ยังใช้กล้ามเนื้อรอบดวงตาอีกด้วย
         ผลของการ ยิ้มจริงใจทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความสุข(เอนเดอร์ฟิน) ออกมาซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปออกฤทธิ์ทำให้ม่านตาขยายตัว และตามีประกายของความสุขที่เราเรียกว่า "ตายิ้ม"ไงคะ..ซึ่งตายิ้ม  นี้เองที่สื่อถึง..ความรัก.. ความเป็นมิตร.. และ ความอบอุ่น


..มายิ้มกันหนอเพื่อนเอย..
...ยิ้มทุกวันนะคะ..



ยิ้ม...
สร้างมิตร 
สร้างโลกให้แจ่มใส









๒.ประนม

“...เราคนไทย    ไปไหนต้องไหว้  ไว้ก่อน..
... เราคนไทย   ไปไหนต้องมือไม้อ่อน..
  เสน่ห์ที่ชวนมอง ของคนไทย...ประเทศเดียวในโลก
  (จริงๆ..ค่ะ)


             ประนม(ก)อาการยกมือขึ้นกระพุ่ม..ยกกระพุ่มมือ..พนมมือก็ว่า.
   ไหว้(ก)  การทำความเคารพโดยยกมือขึ้นประนม. 
                  Y  ประนม....ไหว้
                            Y  ไหว้....มารยาทไทยที่อ่อนช้อย งดงาม
                            Y  ไหว้...แสดงความเคารพ
         Y  ไหว้....กิริยาที่งดงามของคนไทยทุกระดับที่ทุกชาติในโลกสัมผัสได้

"..เป็นผู้น้อยคอยก้มประนมกร....เป็นผู้ใหญ่ไหว้ก่อนยิ่งน่ารัก.."



..ตั้งแต่ผมเป็นภารโรงมามีครูอ้วนนี่แหละครับที่ไหว้ผมก่อน..ผมภูมิใจมาก..
“..ศน.อ้วนไม่ต้องไหว้ลุงหรอก..ลุงเป็นแค่คนขับรถ...
ไม่ต้องไหว้หรอกค่ะ..ไม่เป็นไรค่ะ..
(ครูผู้หญิงค่อนข้างสูงวัยที่นำน้ำเย็นมาให้ดื่มพูด
เมื่อผู้เขียนยกมือไหว้ขอบคุณ.เมื่อคราไปเยี่ยมที่โรงเรียน
เธอรีบวางแก้วน้ำและรับไหว้ )
ศน.อ้วนไม่ต้องไหว้ทุกวันก็ได้ค่ะ
(แม่บ้านที่มีน้ำใจช่วยหิ้วถุงเอกสารขึ้นไปส่ง
ที่ห้องทำงาน บนชั้น ๔   พูดทุกครั้งเมื่อรับไหว้)
อีกเยอะแยะมากมายค่ะ..หากจาระไนก็คงไม่จบ
ในเรื่องความขยันยกมือไหว้ของผู้เขียน
ไหว้ผู้ใหญ่..เป็นเรื่องธรรมดา  ที่วิเศษกว่าไหว้ผู้น้อยค่ะ..






๓.ก้ม
 
เป็นผู้น้อยคอยก้มประนมกร....เป็นผู้ใหญ่ก้มก่อน..ก็น่ามอง น่ารัก

          ก้ม...ทำอาการให้ต่ำลงโดยการน้อม
            Yอ่อนน้อมถ่อมตน..ทุกคนเป็นมิตร
            Yอ่อนน้อมถ่อมตน..ทุกคนช่วยเหลือ
            Yอ่อนน้อมถ่อมตน..ทุกคนอยากเข้าใกล้
            Yอ่อนน้อมเป็นนิตย์...พิชิตคน พิชิตงาน..
                สานสู่ความสำเร็จ (ยืนยันค่ะ)

กิริยาอาการก้ม  อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นกิริยาที่แสดงถึงหลักธรรมของความเป็นกัลยาณมิตร  ประการหนึ่ง คือปิโยเป็นความน่ารักที่ทำให้ผู้อื่นปรารถนาอยากเข้าใกล้ สนทนาวิสาสะ ปรึกษาหาหรือด้วย


...อ่อนน้อมถ่อมตน...บนความจริงใจ
ได้ใจได้มิตร

 





๔. ขาน

“..หวานคารมคมคำที่ฉ่ำจิต
หวานสนิทยิ่งล้ำน้ำคำหวาน
เหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจให้ชื่นบาน
หวานอ้อยตาลหรือจะเทียบเปรียบหวานคำ..

..อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก
แต่ลมปากหวานหูมิรู้หาย...

..ถึงบางพูด   พูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรัก  รสถ้อยอร่อยจิต..

“...พูดดี   เป็นศรีแก่ปาก...


...สวัสดีเจ้า...ขอบคุณเจ้า...ขอสูมาเจ้า...
   บ่เป๋นหยังเจ้า..บ่โขดเจ้า..   
   หื้ออภัยเจ้า..บ่ว่าเจ้า..
...สวัสดีค่ะ...ขอบคุณค่ะ..ขอโทษค่ะ...
   ไม่เป็นไรค่ะ...ไม่โกรธค่ะ...      
   ให้อภัยค่ะ...ไม่ว่าให้ค่ะ.


J....มีอะหยังหื้อจ้วยก่อเจ้า...
    ....มีอะไรให้ช่วยไหมคะ.
J....อยากไค่ได้เอกสารอะหยังเจ้า...
    ....อยากได้เอกสารอะไรคะ....
J....มีอะหยังโทรมาได้นะเจ้า  ยินดีจ้วยเจ้า..
   .....มีอะไรโทรมาได้นะคะ  ยินดีช่วยค่ะ….
J....อยากหื้อไปปะตี้โฮงเฮียนบอกได้นะเจ้า..
     ....อยากให้ไปพบที่โรงเรียนบอกได้นะคะ….
     
            J พูดไพเราะ...เสน่ห์ที่สร้างได้ง่าย ๆ
            J มธุรสวาจา...สร้างมิตร
           J พูดไพเราะ...เชื่อมใจ  เชื่อมสายใยรัก ความผูกพัน
            J พูดดี...เกื้อกูลความก้าวหน้าในภารกิจ
             J พูดดี วจีงาม...งานที่เริ่ม สำเร็จได้ค่อนเชียวค่ะ (ยืนยันอีกครั้ง)




๕. การให้

...การรู้จักให้...ผูกใจคนได้แน่นกว่าสิ่งใด...
     ชีวิตหากคิดว่า กำไรอยู่ที่การเป็นผู้รู้จักให้ เมื่อนั้นชีวิตจะมีความสุข   ความสุขจากการทำดี   ความสุขจากการมีเพื่อนดี   การจะได้เพื่อนดี เราต้องทำตัวให้เป็นเพื่อนที่ดีก่อน   หากหวังจะได้เพื่อนที่ดี เราต้องทำสิ่งดีให้สิ่งดีแก่เพื่อนก่อน    เรียกว่าให้ เพื่อ ได้


           ครูสอนศิษย์ด้วยปัญญาและความเมตตา ความเป็นครูจึงสูงค่ายิ่ง
         นายครองใจลูกน้อง..นายต้องใจดีไม่แล้งน้ำใจ
      กวีและศิลปินสร้างศิลปะด้วยใจรัก...งานจึงออกมาด้วยความประณีต
คนชนะใจคนด้วยความดี...ผูกไมตรีด้วย   การให้

             

         
·    ให้ความรักค่ะ...ผ่านรอยยิ้มและการกระทำ...ทำให้ครูอยากเข้าใกล้ อยากคุย อยากปรึกษา
·    ให้ความเป็นมิตร...สิ่งที่ได้คืนมาคือความเป็นมิตร เช่นกันค่ะ
·    ให้ความเคารพ...ทุกคนค่ะ ..ไม่ว่าใคร..
·    ให้เกียรติ...ทำให้งานราบรื่น  ลุล่วงด้วยดี  มีประสิทธิภาพ
·    ให้การยกย่อง..แก่ผู้สมควรได้รับการยกย่อง ด้วยวิธีการต่าง ๆ ให้คำปรึกษา..แก่คุณครูที่ต้องการความช่วยเหลือ
·    ให้การช่วยเหลือ..เมื่อคุณครู/ผู้บริหาร/สถานศึกษา/ฯลฯ...ต้องการให้สื่อเอกสาร..ทางวิชาการแก่คุณครู/ผู้บริหาร/สถานศึกษาที่ต้องการ
·    ให้แนวคิด..ให้คำแนะนำ..ทั้งทางวิชาการและเรื่องส่วนตัวที่ส่งผลถึงงาน
·    ให้การยอมรับ..งานพัฒนาคุณภาพการศึกษาเป็นงานสร้างคนการยอมรับความคิดริเริ่มในการสร้างสรรค์งาน...จึงเป็นคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของผู้ที่ได้รับการยอมรับ
·   ให้การแบ่งปัน..ตามโอกาส ความเหมาะสม ความจำเป็น   
·   ให้เวลา..ทำให้ผู้ที่กำลังต้องการพบ..มีความอุ่นใจ คาดหวังว่าสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือจะประสบผลสำเร็จ
·   ให้กำลังใจ..เมื่อคุณครู/ผู้บริหารพบความท้อแท้หรือกำลังประสบปัญหาในการทำงาน
·   ให้คำชมเชย..เมื่อคุณครู/ผู้บริหาร/ผู้รับการนิเทศ คิดดี พูดดี ทำดี และประสบผลสำเร็จในการทำดี ฯลฯ
·   ให้โอกาส..เป็นการให้ที่สุดยอดเชียวค่ะ..(คิดเอาเองจากประสบการณ์)
·   ให้อภัยค่ะ..ยิ่งใหญ่ที่สุด

                        ผู้ให้...ย่อมเป็นที่รัก